ติดตาม ข่าวสารและบทความ ของโรงพยาบาลเพชรรัตน์ เพชรบูรณ์ และสามารถรับชมทั้งหมด ได้ที่นี่
วัคซีนป้องกันโรคที่จำเป็นสำหรับทุกวัย
วัคซีนป้องกันโรคที่จำเป็นสำหรับทุกวัย
คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าในช่วงวัยเด็กหากฉีดวัคซีนครบแล้ว
เมื่อถึงวัยผู้ใหญ่ก็ไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนซ้ำอีกเพราะร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรคอยู่แล้ว
แต่ในความเป็นจริงวัคซีนหลายชนิดที่เคยฉีดนั้น
ไม่สามารถป้องกันโรคได้ตลอดชีวิตนะคะ เพราะภูมิคุ้มกันโรคจากวัคซีนที่ฉีดนั้นจะเสื่อมลงไปตามอายุที่มากขึ้นค่ะ
สำหรับวัยผู้ใหญ่ ก็ยังจำเป็นจะต้องได้รับวัคซีน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคติดเชื้อได้ง่าย เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้แล้ว ยังช่วยลดโอกาสการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ที่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวนมาก และยังช่วยลดอัตราการเสียชีวิตที่เกิดจากการติดเชื้อได้อีกด้วยค่ะ
วัคซีนที่ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุควรฉีดมีอะไรบ้าง
1. วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
เกิดจาก การติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza Virus) สามารถแพร่กระจายเชื้อผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย
หรือเสมหะ ของผู้ป่วย ไอหรือจามรดกัน แนะนำให้ฉีดทุกปี
เนื่องจากเชื้อไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ทุกปี โดยฉีดปีละ 1 ครั้ง
ช่วงก่อนมีการระบาดในประเทศไทยมักระบาด 2 ช่วงคือช่วงฤดูฝน และช่วงฤดูหนาว
ทั้งนี้ห้ามฉีดในผู้ที่แพ้ไข่อย่างรุนแรงเนื่องจากไข่เป็นส่วนหนึ่งในขบวนการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่
ราคา 880 บาท/เข็ม
2. วัคซีนคอตีบ
ไอกรน บาดทะยัก แนะนำให้ฉีด 1 ครั้ง
โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีบาดแผลหรือทำงานเสี่ยงต่อการเกิดบาดทะยัก โดยฉีด
3 ครั้ง ครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรก 1-2 เดือน และครั้งที่ 3 ห่างจากครั้งที่สอง
6-12 เดือน และฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี
เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน
ราคา 974
บาท/เข็ม
3. วัคซีนอีสุกอีใส ควรฉีดในผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนหรือไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน
โดยฉีด 2 ครั้งห่างกัน 4-8 สัปดาห์ หญิงวัยเจริญพันธุ์ควรหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์เป็นเวลา
1 เดือนหลังฉีดวัคซีน
ราคา 1,850 บาท/เข็ม
4. วัคซีนงูสวัด ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดเดียวกันกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส
เมื่อหายจากเชื้ออีสุกอีใส เชื้อไวรัสจะหลบอยู่ในร่างกายของเรา
เมื่อภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสลดลง จึงทำให้เกิดเป็นโรคงูสวัด โดยจะมีตุ่มน้ำใสคันเป็นกระจุก
ร่วมกับอาการปวดแสบร้อนตามแนวเส้นประสาท แนะนำให้ฉีดในผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปี
ขึ้นไปเนื่องจากเป็นช่วงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคงูสวัดสูงสุด และควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด
เนื่องจากวัคซีนนี้สามารถป้องกันโรคงูสวัดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในช่วง 5 ปีแรกแนะนำให้ฉีดเพียงครั้งเดียว
ไม่ต้องมีการฉีดกระตุ้นซ้ำ
ราคา 5,000
บาท/เข็ม
5. วัคซีนป้องกันเอชพีวี
(ผู้หญิง) เป็นวัคซีนที่ช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูก แนะนำให้แก่เด็กวัยรุ่นหญิงในช่วงอายุ
9-26 ปี ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนเอชพีวีในหญิงตั้งครรภ์
หลังฉีดวัคซีนแล้วยังต้องมารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอ
ราคา 2,791
บาท/เข็ม
ราคา 7,600 บาท
(รวม 3 เข็ม)
6. วัคซีนหัด
หัดเยอรมัน คางทูม (MMR) ในผู้ใหญ่ที่ยังไม่เคยป่วยเป็นโรคทั้ง
3 นี้มาก่อน รวมทั้งผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน หรือได้รับวัคซีนไม่ครบ 2 ครั้ง
ควรได้รับวัคซีนรวมอย่างน้อย 1 ครั้ง หญิงวัยเจริญเจริญพันธุ์
ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมันมาก่อน
ควรได้รับวัคซีนหัดเยอรมันหรือวัคซีนรวมหัด หัดเยอรมัน คางทูมอย่างน้อย 1 ครั้งและหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์เป็นเวลา
3 เดือนหลังฉีดวัคซีน
ราคา 600
บาท/เข็ม
7. โรคปอดอักเสบหรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่าโรคปอดบวม
เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ “สเตรปโตคอคคัสนิวโมเนียอี” (Streptococcus
pneumoniae) หรือเรียกกันว่าเชื้อนิวโมคอคคัส
เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ
สามารถติดต่อได้จากการสัมผัสละอองฝอยจากการไอหรือการจาม
มักพบโรคนี้ได้บ่อยในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ทุกคนมีโอกาสติดเชื้อได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ติดเชื้อทางเดินหายใจอยู่ก่อนสามารถติดเชื้อนี้ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้
การติดเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวยังนำไปสู่การเกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือภาวะติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือดได้อีกด้วย
ส่วนใหญ่มักพบการเกิดโรคติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำเด็กเล็ก
ผู้สูงอายุ(มากกว่า 65ปี) ผู้ที่ไม่มีม้าม หรือผู้โรคเรื้อรัง
13 สายพันธุ์
ราคา 2,700 บาท
23 สายพันธุ์ ราคา 1,800 บาท
8. วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ
โรคนี้ติดต่อทางอาหารและน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อ
ผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคตับเรื้อรังผู้ที่มีอาชีพประกอบอาหาร
หรือผู้อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างแออัด โดยฉีด 2 ครั้งห่างกัน 6-12 เดือน
เชื่อว่าจะมีภูมิคุ้มกันนานเกิน 10 ปี
ราคา 1,170
บาท/เข็ม
9. วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี
แนะนำให้ฉีดเนื่องจากคนที่ติดเชื้อส่วนหนึ่งเมื่อหายจากตับอักเสบอาจกลายเป็นพาหะของโรคโดยสามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้
ทางสารคัดหลั่ง เช่น ทางเพศสัมพันธ์ จากแม่สู่ลูกขณะคลอด ทางการให้เลือด
หรือการใช้สิ่งของร่วมกันอีกทั้งผู้ที่มีเชื้ออยู่ในร่างกายเป็นระยะเวลานานอาจเป็นตับอักเสบเรื้อรัง
และเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับในอนาคตโดยวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีต้องฉีดทั้งหมด 3
ครั้ง ครั้งที่ 2 ห่างครั้งแรก 1 เดือน ครั้งที่ 3 ห่างครั้งแรก 6 เดือนค่ะ
ราคา 607
บาท/เข็ม
โปรโมชั่น วันนี้ - 31 ธ.ค.63