คลินิกภูมิแพ้
4 โรคภูมิแพ้สุดฮิต
 
       ประชากรเกือบครึ่งหนึ่ง ของประเทศมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ ซึ่งการดูแลตนเองนั้น เป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นหากเป็นโรคนี้แล้ว ควรรู้จักวิธีดูแลตนเอง

โรคภูมิแพ้หูคอจมูกเกิดจากอะไร ?
        โรคภูมิแพ้ (Allergy) ซึ่งในที่นี้จะขอกล่าวถึงเฉพาะ "โรคภูมิแพ้หูคอจมูก” (ENT and Allergy, ENT ย่อมาจาก Ear Nose Throat) เท่านั้น โดยโรคภูมิแพ้ต่างๆจัดเป็นโรคเรื้อรังเช่นเดียวกับโรค เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคไขมันในเลือดสูง เป็นต้น

        ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้หูคอจมูก ร่างกายจะมีการตอบสนองที่รุนแรงผิดปกติที่เรียกว่า ภาวะไวเกิน (Hypersensitive) ต่อสารหลากหลายชนิดที่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อม ซึ่งสารเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายได้โดย
         -  ปนมากับอากาศที่เราหายใจเช่น ฝุ่น มูลของตัวไร แบคทีเรีย เชื้อรา เกสรดอกไม้ และอื่นๆ
         -  ปนมากับอาหารที่รับประทาน และ/หรือ
         -  อาจมาสัมผัสกับตัวเราโดยตรง

       เมื่อสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้เข้าสู่ร่างกายจะทำให้ร่างกายสร้างสารหลายชนิดเช่น สารฮีสตามีน (Histamine) สาร Leukotrienes และอื่นๆ ซึ่งสารเหล่านี้จะกระตุ้นให้ผู้ป่วยแสดงอาการแพ้ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับเนื้อเยื่อ/อวัยวะในหลายๆระบบพร้อมๆกันหรือระบบใดระบบหนึ่งก็ได้ขึ้นกับการตอบสนองของร่างกายแต่ละคนเช่น ระบบหูคอจมูก ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร และ /หรือผิวหนัง เป็นต้น

โรคภูมิแพ้หูคอจมูกมีอาการอย่างไร?
     1. ถ้าเกิดโรคภูมิแพ้หูคอจมูกในส่วนระบบทางเดินหายใจตอนบน จะส่งผลให้อาจเกิดอาการดังนี้
          -  อาการคล้ายโรคหวัดเรื้อรัง คัดจมูก มีน้ำมูก มีเสมหะไหลลงลำคอ
          -  อาจมีเสียงแหบ
          -  รู้สึกจุกในช่องคอ คันคอ เจ็บคอเป็นประจำ/เรื้อรัง
          -  มีเลือดกำเดาบ่อย
          -  คันหู หูอื้อ
          -  เวียนศีรษะ
     2. ถ้าเกิดโรคภูมิแพ้หูคอจมูกในส่วนหลอดลม อาจจะทำให้มีอาการดังนี้
          -  หายใจไม่เต็มอิ่ม (หอบ เหนื่อย หรือหายใจลำบาก)
          -  ไอเรื้อรัง
          -  หอบหืด (โรคหืด)
     3. ถ้าเกิดโรคภูมิแพ้กับผิวหนังร่วมด้วย ผิวหนังอาจจะมีอาการดังนี้
          -  เกิดลมพิษ (ผิวหนังขึ้นผื่น คัน)
          -  ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง
     4. ถ้าโรคเกิดกับทางเดินอาหารร่วมด้วย อาจจะมีอาการจากทางเดินอาหารได้ดังนี้
          -  คันช่องปาก คันเพดานปาก
          -  ลิ้นเป็นฝ้าขาว
          -  ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย
     5. ถ้าโรคเกิดกับตาร่วมด้วย อาการที่อาจพบร่วมด้วยคือ
          -  คันตา
          -  ตาแดง
          -  น้ำตาไหล
    อนึ่งผู้ป่วยอาจมีอาการปวดศีรษะบริเวณคิ้ว รอบกระบอกตา กกหู และบริเวณท้ายทอย (Sinus headache) ร่วมด้วยได้

โรคภูมิแพ้หูคอจมูกมีธรรมชาติของโรคเป็นอย่างไร?
         ธรรมชาติของโรคภูมิแพ้หูคอจมูกคือ ไม่ใช่โรคติดต่อแต่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากพ่อและ /หรือแม่ไปสู่ลูกได้ (Multiple gene defect) และปัจจุบันเป็นโรคที่ยังรักษาไม่หายขาด การรักษาของแพทย์หวังผลเพียง
         -  เพื่อให้ผู้ป่วยไม่มีอาการ
         -  เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อน/ผลข้างเคียงต่างๆตามมาเช่น การติดเชื้อแบคทีเรียของระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น

        ถ้าผู้ป่วยเกิดมีอาการเรื้อรังดังกล่าวในหัวข้อ อาการอยู่นานๆไม่รักษาอาจเกิดหูอื้อจนการได้ยินสูญเสียไปอย่างถาวร (Serous-Adhesive otitis media) หรือเกิดมีเนื้องอกในจมูก (Nasal polyp) หรือเกิดไซนัสอักเสบได้ (ไซนัสอักเสบอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆได้เช่นกันเช่น ผนังกั้นโพรงจมูกคด, เนื้องอกในจมูก และ/หรือในไซนัสมีสิ่งแปลกปลอมในจมูกเช่น เมล็ดผลไม้, มีรากฟันบนอักเสบ และอื่นๆ) และ/หรือผู้ป่วยอาจมีอาการหอบหืด/โรคหืดอย่างรุนแรงจนเกิดอันตรายได้

ควบคุมและป้องกันโรคภูมิแพ้หูคอจมูกได้อย่างไร?
     ควบคุมและป้องกันโรคภูมิแพ้หูคอจมูกได้โดย
     1. หลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆ/สารต่างๆที่ผู้ป่วยแพ้โดยผู้ป่วยควรต้องสังเกตทุกๆอย่างกับอาการที่เกิดขึ้นเสมอเช่น อาหารและเครื่องดื่มที่บริโภค เครื่องใช้ต่างๆเช่น สบู่ น้ำหอม ผงซักฟอก
     2. ขจัดหรือหลีกเลี่ยงมลภาวะต่างๆเช่น การสูบบุหรี่ ควันบุหรี่ ควันรถ ยาฆ่าแมลง
     3. ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมให้สะอาดเช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องผลิตโอโซน เครื่องนอนต่างๆเช่น ควรใช้ที่นอน-หมอนยางพารา ผ้าปูที่นอน-ปลอกหมอนควรใช้ชนิดที่ป้องกันไรฝุ่นได้ เป็นต้น
     4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอตามควรกับสุขภาพ
     5. พักผ่อนให้เพียงพอ
     6. ควรทดสอบสารภูมิแพ้เพื่อการฉีดวัคซีน (Hyposensitization) เพื่อกระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิ คุ้มกันต่อสารที่ผู้ป่วยแพ้ ทั้งนี้โดยทั่วไปแพทย์โรคภูมิแพ้มักให้คำแนะนำในเรื่องนี้อยู่แล้ว

รักษาโรคภูมิแพ้หูคอจมูกอย่างไร?
        รักษาโรคภูมิแพ้หูคอจมูกโดย

        -  กินยา ฉีดยา หรือพ่นยาแก้แพ้ เป็นประจำ
        -  รักษาโรคติดเชื้อแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นเช่น การติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ โรคไซนัส อักเสบ โรคต่อมทอนซิลอักเสบ
        -  ใช้น้ำเกลือล้างโพรงจมูกให้สะอาด (ผู้ป่วยควรต้องสอบถามวิธีการล้างจากแพทย์พยาบาลจนเข้าใจจนสามารถล้างด้วยตนเองได้อย่างถูกต้อง)
        -  ผ่าตัดแก้ไขความผิดปกติที่เป็นปัจจัยให้เกิดอาการแพ้มากขึ้นเช่น ตัดเนื้องอกในจมูก (Nasal polyp)  หรือขูดต่อมอะดีนอยด์ที่อยู่ด้านหลังโพรงจมูกออกเพื่อลดการอุดกั้นของโพรงจมูก
        -  ขยายโพรงจมูกให้กว้างขึ้น
        -  เพื่อแก้ไขภาวะอุดตันของไซนัส (Osteomeatal complex) และของโพรงจมูก
        -  เพื่อให้หายใจสูดและสั่งน้ำมูกได้สะดวก
        -  เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถใช้ไซนัสและโพรงจมูก-กรองอากาศที่หายใจเข้าไปให้สะอาด   
        -  ปรับอุณหภูมิและความชื้นของอากาศที่หายใจเข้าไปให้เหมาะสมก่อนหายใจผ่านช่องคอ และกล่องเสียงสู่ปอด

สรุป

        การควบคุมโรคภูมิแพ้ซึ่งรวมทั้งโรคภูมิแพ้หูคอจมูกนั้น แพทย์ผู้ให้การรักษาจะเป็นผู้พิจารณาจากอาการผู้ป่วย การตรวจร่างกายและสิ่งผิดปกติที่แพทย์ตรวจพบว่าสมควรใช้วิธีใด อาจเพียงวิธีเดียวหรือหลายวิธีร่วมกันเพื่อป้องกันและรักษาไม่ให้ผู้ป่วยมีอาการแพ้หรือเกิดโรค/ภาวะแทรกซ้อน/ผลข้างเคียงต่างๆ ทั้งนี้ความสำเร็จในการควบคุมและรักษาโรคที่เกิดขึ้นนั้นขึ้นกับว่า ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์พยาบาลได้สม่ำเสมอหรือไม่